วันนี้ก็เป็นวันที่ 3 ของทริปแล้ว เย้ๆ (16 Feb 2015) ซึ่งดูจากพยากรณ์อากาศตอนแรกคือฝนจะตก ... ตกจริงด้วย 555 เซ็งบุย
สำหรับคนที่พลาด day1 และ day2 ติดตามชมย้อนหลังได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ
Sweet-Fukuoka day-1-Nagasaki
Sweet-Fukuoka-day-2-huis-ten-bosch
ต่อๆ...เรามาแนะนำบัตร IC card แก้กลุ้มฝนตกกันดีกว่า ... 555 ในรูปเป็นบัตร smart card เติมเงินคล้ายบัตร BTS น่ะแหละครับ เติมเงินได้ตามตู้เติมเงินที่อยู่ตามสถานี JR หรือ subway ซึ่งบัตรนี้แรกเลยต้องจ่าย 2000 เยน จะเป็นค่ามัดจำ 500 เยน ครับ แต่ก็จ่ายแค่ทีเดียวพอ บัตรนี้นอกจากจะใช้เดินทางได้ทั้ง bus และ subway แล้ว ยังใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าที่มีเครื่องหมายบัตรนี้ติดไว้ที่หน้าร้านหรือที่แคชเชียร์ครับ
จริงๆบัตรนี้สะดวกมากนะครับ ในแง่ที่ว่าซื้อของก็ไม่ต้องพกเหรียญ เพราะเคยนับเหรียญเงินเยนจนตาลายมาแล้ว 555 สามารถหาซื้อบัตรนี้ได้ตามสถานี JR หรือ subway ครับ
สามารถเก็บบัตรนี้ไว้ใช้ได้ทุกครั้งที่กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นครับ ซึ่งแต่ละภูมิภาค บัตร IC จะมีชื่อเรียกและหน้าตาที่แตกต่างกัน แต่ก็ใช้ด้วยกันได้ครับ ... ตามรูปเลยครับ
แต่....วันนี้ การเดินทางเราจะเดินทางด้วย Street Car ครับ ซึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายมากใน Nagasaki ... ค่าเดินทางจะใกล้จะไกล ก็ 500 เยน ครับ วันนี้เราจะเดินทางขึ้นลงหลายสถานี (มั้ง...ตามแพลน) เลยซื้อ 1-day pass เลยครับ
หน้าตาแบบนี้เลย...เวลาขึ้นรถก็ขึ้นจากด้านท้าย street car ครับ เวลาลง ก็ลงด้านหน้า แล้วโชว์หน้าบัตร 1-day pass ให้คนขับดูวันที่เปิดใช้บัตรครับ
ส่วนด้านใน...มีแผนที่บอกเรียบร้อย ว่ามี 4 สาย (เหลือง, เขียว, แดง, น้ำเงิน) จะไปเที่ยวที่ไหน ต้องขึ้นสายไหน ละเอียดใช้ได้เลยครับ
วัดที่ 2 เดินต่อไปจากวัดแรกนิสนึง พอเหงื่อซึม เป็นวัดเก่าแก่ครับ ชื่อ Kofukuji temple เสียค่าเข้า 300 เยนครับ แล้วก็จะได้โบรชัวร์มาด้วย
ในวัดเงียบสงบและสวยงาม เป็นวัดเล็กๆครับ เดินนิดเดียวก็ทั่วแล้ว
วัดนี้จะอยู่ใกล้สะพานแว่นตาครับ เดินต่อไปอีกนิดเดียวเอง ...พอดีช่วงที่ไปมีเทศกาล Lantern Festival ... ทั้งเมืองเลยเต็มไปด้วยโคม โคม โคม และ โคม ...พอถ่ายสะพานแว่นตามา เลยหามุมยากมาก เสียใจที่ไม่ได้มุมเหมือนกับที่เห็นในโบรชัวร์
ถัดมาที่จะไปคือ Glover Garden ครับ เป็นสวนสวยที่มีเรื่องราวความเป็นมาหลายสมัย พร้อมสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่ด้วยครับ การเดินทางง่ายๆครับ สายสีเขียวสุดสายเลย หมายเลข 51 Ishibashi ครับ
หน้าตาโบรชัวร์ครับ ...ขอภาษาอังกฤษได้ครับ (โดนทักอีกแระ ว่าจะเอาภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาจีน)
ในวัดเงียบสงบและสวยงาม เป็นวัดเล็กๆครับ เดินนิดเดียวก็ทั่วแล้ว
วัดนี้จะอยู่ใกล้สะพานแว่นตาครับ เดินต่อไปอีกนิดเดียวเอง ...พอดีช่วงที่ไปมีเทศกาล Lantern Festival ... ทั้งเมืองเลยเต็มไปด้วยโคม โคม โคม และ โคม ...พอถ่ายสะพานแว่นตามา เลยหามุมยากมาก เสียใจที่ไม่ได้มุมเหมือนกับที่เห็นในโบรชัวร์
ถัดมาที่จะไปคือ Glover Garden ครับ เป็นสวนสวยที่มีเรื่องราวความเป็นมาหลายสมัย พร้อมสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่ด้วยครับ การเดินทางง่ายๆครับ สายสีเขียวสุดสายเลย หมายเลข 51 Ishibashi ครับ
บางคนอาจจะแนะนำให้ไปลงสถานี หมายเลข 50 นะครับ ถ้าลงอันนั้นจะเป็นการเข้าจากด้านหน้า จะเจอโบสถ์ Oura Catholic Church ก่อนด้วย แต่เวลาเดินทัวร์ใน Glover Garden จะต้องเดินขึ้นเนินครับ เนื่องจากทริปนี้เพิ่งเริ่มต้นมาได้เป็นวันที่ 3 ทางคณะเลยมีมติกันว่า เข้าจากด้านหลังสวนแล้วตอนเดินเที่ยวเดินลงเนินจะดีกว่า 55555
พอมาถึง สถานีหมายเลข 51 จะมีป้ายบอกครับว่าให้เดินไปทางไหน ขึ้นลิฟท์มาครับก็จะเจอจุดชมวิวด้านหลัง เมฆเยอะ ครึ้มๆ เสียใจอ่า ถัดมาเป็นทางเข้า พร้อมจุดขายตั๋ว
วิวสวยๆจากตึกด้านท้ายสวนครับ
เดินลงเนินมาเรื่อยๆก็จะเจอจุดชมวิวและรูปปั้นต่างๆในสวนครับ
เค้าบอกว่าถ้าได้แตะ Heart Stone ครบทั้ง 2 อัน จะสมหวังในเรื่องความรัก... นี่แหละที่อ่านไม่ดี เพราะแค่หาเจอ แต่ไม่ได้แตะ พอมาอ่านอีกทีจะกลับไปแตะก็ไม่ทันเลย เดินผ่านร้านขายของที่ระลึกเลยแตะซะหน่อย 555 (มันแทนกันได้ม๊ายเนี่ย)
เดินกลับออกมาทางด้านหน้าครับ ก็จะเจอโบสถ์ Oura Catholic Church และร้านรวงต่างๆ มากมาย
ที่พลาดไม่ได้คือ เบอร์เกอร์ไส้หมูสามชั้น (แต่ก็งงๆ นะ เพราะแป้งเหมือนแป้งซาลาเปา) ที่เนื้อหมูสามชั้นจะนุ่มมมมมมม คล้ายๆ หมูต้มเค็มนะ แล้วก็ละลายในปาก แต่ไม่ละลายในมือ คริ คริ ไม่อ้วนหรอกครับ อย่าคิดมาก เพราะทริปนี้เดินเยอะ แต่ด้วยความที่ว่า ลูกทัวร์เตรียมจะไปกินที่อื่นต่อ ก็เลยลองซื้อมาแบ่งกันชิม 1 ชิ้น งามๆ พนักงานมาเสิร์ฟแบบนี้ครับ พร้อมชาร้อน (เอาไว้สลายไขมัน 555)
ดูด้านในครับ... แผลบๆ ซี๊สสสส (เช็ดน้ำลายด่วน)
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่หลายๆคนรอคอยครับ มื้อเที่ยงวันนี้ ลูกทัวร์ของเราทำการบ้านมาดี ไปหาข้อมูลของกินอร่อย ใน Nagasaki มาครับ ใครอยากหาข้อมูลของกินเพิ่มเติม ตามลิงค์นี้ได้เลยครับ
คิวชูอารมณ์ดี ตอนที่ 12: เช้าชาม เย็นอีกสองชาม
ซึ่งร้านที่เราจะขอนำท่านไปชิมวันนี้ คือ Marugame Seiman ครับ ร้านนี้อยู่ที่ Coco Walk ครับ ซึ่งจะต้องนั่ง street car มาลงที่สถานี Mori-Machi หมายเลข 23 ครับ ... ก็มีสายสีน้ำเงินและสายสีแดงที่ผ่านครับ ฉนั้นตอนนั่งมาจาก Glover Garden เลยต้องนั่งสายเขียว มาลงที่ Tsuki-Machi (หมายเลข 31) [สถานีนี้เป็น China Town ของที่ Nagasaki ด้วยครับ ว่างๆ แวะมานะ] จากสถานที 31 ก็ต้องเปลี่ยนไปขึ้นสายสีน้ำเงินจร้า
Marugame Seiman เป็นร้านอุด้งชื่อดัง อยู่ที่ชั้น 3 ของห้าง Coco Walk ครับ
เห็นนายแบบ... เอ้ย.. เห็นป้ายโฆษณาก็น้ำลายไหลซะแระ
อ่านวิธีสั่งตามเว็บมาอย่างดี... เลยสปี๊คไปอย่างมั่นใจ "คะมะทะมะ คุดาไซ" (คือจะสั่งแบบเส้นอุด้งลวกแล้วมีไข่ดิบอ่ะจ้า) คุณคนขาย เว่าญี่ปุ่นกลับมา หงายหลังไปเลย ... สรุปเลยต้องใช้วิธี ชี้ ชี้ ชี้ เหมือนเดิม
คีบของทอดๆ มาอีกหลายอย่าง แล้วสุดท้ายก็ไปคิดเงินที่ท้ายเค้าเตอร์ครับ
ได้มาแบบนี้ ด้วยอารมณ์หิวจัด 5555
ต้นหอมตักเองตามใจฉัน เลยกวาดมาจะหมดชามเค้าเลย แบบว่าหน้าด้านมาก งุงิ
อันนี้ของคุณแฟน ... คือชี้ตามเมนูแนะนำของเค้าครับ (หลอกให้เราสั่งแบบ คะมะทะมะ คุดาไซ แหมๆ)
อิ่มท้องแล้ว จะขาดเครื่องดื่มสุดโปรดคงไม่ได้...เพราะตั้งแต่มาเหยียบแผ่นดินอาทิตย์อุทัย ยังมะได้จิบ Starbucks เลยแม้แต่อึกเดียว มะกี้ตอนเดินเข้าห้าง Coco มาเห็นแว๊บๆ เลยจัดซะหน่อย
มีเครื่องดื่มต้อนรับเทศกาลชมซากุระพอดี ฟรุ๊งฟริ๊งมากๆ
คุณบาริสต้าสุภาพมากกกก โค้งตลอดเวลาและพูดทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นประหนึ่งว่าชั้นจะฟังออก แต่ก็ประทับใจในความนอบน้อมของคนที่นี่จริงๆ
เสร็จแล้ว กิจกรรมถัดไปคือ.... ช๊อปปิ้ง .... ก็เริ่มงงๆ เล็กน้อย ว่าจุดระเบิดลง หรือ มิวเซียม คงไม่ได้ไปแล้วซิเนี่ยฉาน สตั๊นท์ไป 10 วิ ......
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ...หิวกันอีกแล้ว
มื้อดึกมื้อสุดท้ายก่อนย้ายเมือง เราขอจัดร้านอาหารแถวโรงแรมครับ ชื่อร้าน... ไม่ทราบ...อ่านไม่ออก
สิ่งที่อ่านออกมีอย่างเดียวคือ "Bowl for MEN" แสดงว่า จะได้เจอแต่ผู้ชายในร้านซินะ... Oops! ไม่ใช่ซิ แสดงว่า ชามจะใหญ่มากต่ะหาก อิ่ม อิ่ม อิ่ม หุๆ
ร้านอยู่ตรงนี้ครับ ตามหมุดปัก ลง street car ที่สถานี Gotomachi หมายเลข 28 (สองสถานีจากสถานี Nagasaki เท่านั้นเอง) ลงมาแล้วเดินตาม map ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ตาม map นะ (ที่เป็นดาวสีเหลืองๆ นั่นโรงแรม Toyoko Inn Nagasaki ครับ) ร้านนี้เจอโดยบังเอิญเพราะจะเดินไป 7-11 อ่ะคับ
เมนูมากมาย อู๊ววววววศ์
แถมมีเมนูแนะนำ อันดับ 1-6 ด้วย
วิธีสั่งง่ายมาก...ใส่เงินจะแบ๊งค์หรือเหรียญก็ได้ ที่วงกลมสีเขียวตรงหมายเลขหนึ่งในภาพด้านล่างครับ
จากนั้นเลือกรายการอาหารที่ต้องการจากโซนหมายเลขสอง ก็จะมีตั๋วออกมา หยิบตั๋วจากเครื่อง เดินเข้าไปในร้าน ยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วก็หาที่นั่งครับ
ส่วนนี่ของกระผมเอง... เลือกเมนูอันดับที่ 1 ... คริ คริ อลังฯมาก ไม่อยากจะบอกว่ามันเยอะมาก อร่อยมาก และ มันมาก...แนะนำให้กินแค่ครั้งเดียวครับ เอาแค่หายอยากนะ หุๆ
ปิดท้ายวัน...ด้วยไอตริม... (มรึงยางจะกินอีกหรอ ดึกแล้วนะ 555)
สำหรับคืนนี้คือสิ่งที่เราเล็งมาตั้งแต่วันก่อนครับ อิๆ ฝันดีแระ จุ๊บๆ
มาแว๊ว.... Sweet Fukuoka Day 4 & 5 - OMG from Beppu to Hakata
ของวันอื่นๆ ก็เขียนเสร็จแล้วตามไปอ่านกันนะคร๊าบบบบ
Sweet Fukuoka day 6 - Slow Life @ Yufuin
Sweet Fukuoka day 7-10 ~ Kumamoto หมูคุโรบุตะ ฟินเฟร่อ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น