วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

Sweet Fukuoka Day 1 - Yūtoku Inari Shrine, Nagasaki, Mt.Inasa


ขออวดคลิปหน่อยครับ..​สำหรับวันเกิดคุณแฟนปี 2014 ดิ่นดิ๊นได้จัดทริป Fukuoka ให้ครับ

เห็นในคลิปเว่อร์อลังฯขนาดนั้น เอาเข้าจริง ไปไม่หมดจ้า.. คลิปนี้ ใช้เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น 555


10 Feb แล้ว... ยุ่งสุดๆ เลย ยังไม่ได้เริ่มแพ็คกระเป๋า แย่แระ ทำไงดี?
เอาสภาพอากาศไปดูก่อนแล้วกัน... หนาวระดับนี้ ชิลๆ ว่าม๊ะ 5555


มาแระ... แพลนทริปแบบร้อนๆ.. แต่เชื่อซิ เดี๋ยวก็เปลี่ยน 5555


14 Feb
มาแว๊วววว
มาถึงก่อนเวลา counter check-in เปิดซะอีก 555 แต่ก็บ้าจี้ต่อแถวนะ ได้คิวแรกซะด้วย

เครื่องลงแระคับ อากาศหนาวกว่าที่คิดไว้ แงๆ


ผ่าน ตม. ก่อนอย่างง่ายดาย พอรับกระเป๋าแล้ว ออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า มองมาทางขวาครับ เจอป้ายนี้ ตรงดิ่งมาซื้อ JR rail pass ก่อนเลย และบอกพนักงานเลยก็ได้ครับว่าจะเปิดใช้ pass ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ตามแพลนทริปเรา


ราคาก็ประมาณนี้ครับ เลือกตามแพลนของเราเลยครับ ... ของทริปผม เลือก 5-day pass North Kyushu ครับ (จริงๆ มานั่งคิดทีหลัง ... ซื้อแบบ 5-day + 3-day จะคุ้มกว่า แต่ฉานคำนวนผิดเล็กน้อย เซ็งเบย)

ข้อมูลจากลิงค์นี้ครับ JR Kyushu Pass Info.


ซื้อเสร็จแล้ว อย่ารอช้า...รีบเข้าเมืองกันดีกว่าครับ จะได้เดินทางต่อตามแพลน...จะเข้าเมืองก็มี 2 วิธี ... Bus หรือ subway (ปล. เข้าเมืองนั้น ใช้ JR rail pass ที่เพิ่งซื้อมาไม่ได้นะครับ ใช้คนละวัตถุประสงค์กัน JR rail pass ที่เพิ่งซื้อมาตะกี้ เอาไว้เดินทางระหว่างเมืองครับ แต่ถ้าเดินทางในเมืองเดียวกัน ต้องเลือกพาหนะให้ถูกต้องตามเมืองนั้นๆ อย่างเช่นที่ Hakata นี้ ก็จะมี Subway หรือไม่ก็ bus ครับ) ดูตามรูปด้านล่างเลย ประเทศนี้น่ารักมาก จะไปไหนอะไรยังไงบอกหมด บอกละเอียด ถ้าไปไม่ถูกแสดงว่าเราไม่อ่าน หรือไม่ก็อ่านไม่ละเอียด ซึ่งทริปนี้ผมก็พลาดไปหลายอย่างเลย เรื่องอ่านไม่ละเอียดเนี่ย หุๆ


ถ้า bus ต้องไป ต่อแถวด้านนอกตัวอาคาร รถมาไม่บ่อย ประมาณ 30 นาทีมาคันนึงคับ (แล้วแต่ว่าเป็นวันธรรมดาหรือวันหยุด) พลาดคันนึง รอนานเลย ซึ่งวันนั้นมาถึง โล่งเชียว..​ดูจากตารางด้านล่าง เลยเห็นว่าพลาดไป 2-3 นาทีเอง เพราะมัวแต่ลีลาถ่ายรูป แลกเหรียญ... บลา บลา บลา .. เศร้าเบย


เอาไงล่ะทีนี้... โชคดี มีคนมาช่วยอ่านกระทู้ท่องเที่ยวฟูกุโอกะ (มีรุ่นพี่โพสไว้มากมาย) เลยต้องมาทาง subway แทน ซึ่งการไป subway จะต้องลากกระเป๋าขึ้น bus ใกล้ๆกันน่ะแหละ ไปที่ domestic terminal ก่อน (อันนี้ฟรีจ้า) แล้วขึ้น subway จาก domestic terminal เพื่อมาที่ JR Hakata Station (อันนี้ ไม่ฟรีนะ ต้องเสียเงินค่า subway)

ขอตัดภาพแว๊บบบบบบบ... ผ่าน time machine มาที่ร้านอาหารเลยแระกัน (เรื่องของเรื่องคือมัวแต่ลากกระเป๋า มะได้ถ่ายรูปการเดินทาง ช่วง subway มาที่ Hakata station เลย) 555


พอดีทริปนี้ผมต้องนั่ง JR ต่อไปที่ Nagasaki ครับ เลยขอซื้อไรไปทานระหว่างทางหน่อยนะ
แนะนำร้านนี้ครับ อยู่ตรงข้ามกับห้องขายตั๋วของ JR เลย ...​หลากหลายคนบอกต่อๆกันมา ข้าวกล่อง Bento ชื่อดัง ชี้เอาเลยครับว่าอยากทานหน้าแบบไหน แถมคุณป้าเจ้าของร้านจัดอันดับไว้ให้ด้วยว่าหน้าไหนแบบไหนยอดนิยม เลยจัดอันดับ 1 มาซะเลย 555


ข้างในแกะออกมาเป็นแบบนี้ มีตะเกียบและไม้จิ้มฟันพร้อม ...

อันนี้ของคุณแฟน ...กล่องนี้เป็นการเม๊ดเล่ย์อาหารแสนอร่อยจากเมืองต่างๆ ของ Kyushu มารวมกันไว้ในกล่องเดียว (ฉลาดแท้ แฟนเรา)

ด้านใน แหล่มไม่แพ้กันเลย


อีกร้านครับ...​เหมาะสำหรับแทะเล็มบนรถไฟพร้อมจิบกาแฟไปด้วย สวรรค์มากๆ แต่มีสองร้านนะครับ ป้ายเหมือนกันเด๊ะเลย สังเกตดีๆ ต้องเป็นร้านที่มีตู้ 3 ตู้แบบในรูป แล้วก็มีครัวซองให้เลือก 3 รสชาติ ... เค้าจะชั่งขายเป็นขีดนะครับ ก็บอกเค้าว่า เอารสนั้นรสนี้ กี่ชิ้น แล้วเค้าจะชั่งออกมาเป็นราคาครับ ผมชอบรสมันหวาน มากที่สุดเลย (sweet potato) อีกสองรสน่าจะเป็นช๊อกกุแระ กะ รสธรรมดา (มั้ง) เพื่อนบอกมาก็จำไม่ได้ ชี้ๆ สั่งๆ อย่างเดียว

ป่ะ .. นั่งรถไฟกันครับ อันดับแรกจะไป Yūtoku Inari Shrine ก่อนครับ ซึ่งอยู่ที่ Saga เวลาลง ต้องลงสถานี Hizenkashima

จะเดินทางในญี่ปุ่นเอง ต้องฝึกเปิดตารางรถไฟออนไลน์นะคับ เข้าเว็บนี้เลย http://www.hyperdia.com/en/


เลือก more option จะปรากฏหน้าต่างด้านล่างครับ ให้ใส่เชื่อต้นทาง กะ ปลายทางให้เรียบร้อย วันเวลา ให้ถูกต้อง แล้ว เอาเครื่องหมายถูก ออกจากช่อง NOZOMI / MIZUHO /
HAYABUSA (SHINKANSEN) กะ Private Railway 


พอกด search จะมีข้อมูลออกมามากมาย ลองเลือกดู route ที่เหมาะสมกับเวลาเดินทางเรานะครับ เช่น ไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟหลายขบวน ไรงี้ คราวนี้บอกเลย พลาดตั้งแต่ไม่ได้ซื้อ JR Pass แบบ 3 วัน ... เพราะคิดว่าโดยสารรถไฟแค่ไม่กี่เที่ยว ปรากฏว่า ไอ้รถไฟที่ขึ้นเนี่ย เป็น LTD. Express ครับ ซึ่งมันจะมีค่าธรรมเนียม Seat fee ด้วย ...​ไม่ได้จ่ายแค่ 1,650 Yen แบบที่เขียนในภาพด้านล่างนะครับ ... บวก seat fee ไปอีก หลายร้อยเยน...​สตั๊นท์ไปหลายนาทีเลย

สรุปว่าถ้าจะขึ้นขบวนนี้ (โดยที่ไม่ได้เอา JR Pass ที่ซื้อมาจากตอนลงเครื่องมาใช้นั้น) จะต้องซื้อตั๋วจากเครื่องซื้อตั๋วข้างนอกก่อน แล้วค่อยสอดตั๋วเข้ามา แล้วก็เก็บตั๋วไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ แล้วก็ต้องไปนั่งในตู้ที่เป็น non-reserved seat ด้วยนะคับ คือบับว่า พลาดหลายตลบ จ่ายเพิ่มเยอะเบย T_T


พอลงรถไฟมา เลยวุ่นวาย ต้องสื่อสารกับเค้าว่า เราขึ้นมาผิดยังไง ปวดหัวเบย
ออกมาจาก Hizenkashima แบบว่าเป็นสถานีเล็กๆ โอร้ววววว ไม่มีตู้ locker ให้ฝากกระเป๋าเหมือนกับสถานีใหญ่ๆ นะครับ จะต้องไปฝากไว้ที่ร้านขายของข้างบัสสต๊อป

ขออนุญาตอ้างอิงรูปภาพและข้อมูลการฝากกระเป๋านิสนุงจากลิ้งค์นี้ครับ
F U K U O K A 福岡市 summer story EP.I
ตามรูปเลยครับ พอมองออกมาจากตัวสถานี JR ก็จะเห็นตึกที่เป็นจุดขึ้นรถบัส สามารถเอากระเป๋าใบใหญ่ๆ ไปฝากไว้กะคุณลุงตรงที่ขึ้นรถบัสได้ครับ ...

คุณลุงมีบริการพร้อม ... รับฝากกระเป๋า พร้อมขายตัวรถบัส ในราคา 320 Yen (มั้ง ถ้าจำไม่ผิด)  พร้อมตารางเวลารถเสร็จสรรพ แม้ว่าจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง แต่ก็ใช้ภาษามือและชี้นู่นนี่นั่น จนเข้าใจได้ว่า ขึ้นรถบัสไปกลับ

ตอนขึ้นบัส ให้ขึ้นทางประตูด้านหลังครับ แล้วรับบัตรกระดาษใบเล็กๆ มาด้วย กระดาษจะแสตมป์ว่าเราขึ้นจากสถานีหมายเลขอะไร .... ตอนจะลงก็ดูที่ด้านหน้ารถ จะมีป้ายบอกว่า หมายเลขของสถานีต้นทางที่เราขึ้นมานั้น ต้องจ่ายเงินกี่เยน (ระหว่างนั่งไป ถ้าคอยสังเกตดู ค่าเดินทางมันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตามจำนวนสถานีที่รถวิ่งไป)... ตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าต้องทำไรบ้าง คอยนั่งจับเวลาอยู่ว่า 15 นาทีรึยัง ก็คอยลง ปรากฏว่าสังเกตง่ายมาก เพราะสถานีที่จะต้องลง เหมือนจะเป็นท่ารถใหญ่ คือเลี้ยวเข้าไปเป็นเวิ้งใหญ่ๆ เลย ไม่ใช่ป้ายริมถนน เลยรอดตัวไป ประกอบกับคุณแฟนจำได้ว่า ถึงแล้วนี่ ต้องลงแล้ว จำทางเข้าวัดได้ ตาดีสุดๆ เราก็มัวแต่นั่งเอ๋อ 5555


อันนี้ระหว่างทางครับ ของกินมากมาย หร่อยๆทั้งนั้นเลย


เดินมาตามทางเรื่อยๆ ถึงวัดแระ ... งามม๊ะล่ะ

ตรงทางเข้าวัด จะมี map ให้ดูครับ จะเห็นได้ว่ามีทางเดินขึ้นไปอีกไกลเลย หุหุ

มาถึงก็ทำบุญกันสักหน่อย... เล็งคนก่อนๆ หน้านี้ทำ ก็ทำตามบ้าง ...​โยนเหรียญก่อนครับ ให้ลงช่องด้านหน้า ต่อมาจับเชือกเขย่ากระพรวนให้ดังๆ แล้วก็ตบมือ 2 ที (ถ้าเข้าใจอะไรผิดอย่าว่ากันนะ หุๆ)

นี่ครับ...เดินมาทางด้านหลัง ก็เดินขึ้นเขาไปได้อีก

สรุปว่าปีนขึ้นไปได้ไม่ไกล ก็ต้องเดินลงมาซะงั้น ปวดเข่า ปวดกระดูกขึ้นมาทันที จะมาฟิตอะไรกันตั้งแต่วันแรกๆเนี่ย 555

ตอนเดินกลับออกมาก็เจอวิวสวยไปอีกแบบครับ โชคดีที่ฟ้าใสมาก

นั่งบัสกลับมาที่สถานี Hizenkashima ครับ เพื่อขึ้น JR ไป Nagasaki 
พอมาถึงก็ขอสักภาพแระกัน กะเจ้า Limited Express Kamome T_T

ออกมานอกสถานี JR เจอแบบนี้เลยครับ เลยขอภาพคู่ Street Car ซะหน่อย วันนี้ยังไม่ขึ้นนะ ไว้อีกวันค่อยซื้อ one day pass

ลากกระเป๋ากึงกังกึงกังไปที่พักครับ คืนนี้ พัก Toyoko Inn Nakasaki ... เซียนญี่ปุ่นแนะนำมา สะอาด ราคาไม่แพง พักหลายคืนมีส่วนลด ให้รีบสมัครสมาชิกเลยตอนที่ไปเช็คอิน

หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ก็ค่ำพอดีครับ ประมาณ 5 โมงเย็นมั้ง ก็เลยหาทางไป Mt.Inasa กัน ปรึกษากันอย่างออกรสออกชาติ เพราะคุณแฟนก็มาอีกตำรานึง เราก็มาอีกตำรานึง เลยสรุปว่า ... "เดิน" ไปจร้ะ ก็โอเคนะ อากาศเย็นๆ แดดไม่แรง

ทางขึ้น ropeway อยู่ที่สถานี Fuchijinja station ครับ เดิน 2 กิโล จากที่พัก ชิลมาก บอกเลย


วิวระหว่างทางก็สวย ดีแระที่เดินมา

มาถึงก็ต่อแถวซื้อตั๋วขึ้น ropeway ครับ


ได้ตั๋วมาแระ หุๆ

ระหว่างขึ้นจะมีคนบรรยายวิวตลอดทางครับ... ฟังไม่ออก..ภาษาญี่ปุ่น เหอๆ
แต่ก็มี version English แทรกมาเป็นระยะๆ 

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็ต้องเดินต่ออีกนิสครับ เพื่อไปตึกชมวิว

นี่เลยยยย...
Mt. Inasa มองออกไปทางทะเลครับ สวยเหงาๆ ไปอีกแบบ

ส่วนรูปนี้ สวยงามสุดๆ ครับ เป็นภาพเมือง Nagasaki จากยอดเขา Inasa จัดว่าติด top 3 ของวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นครับ

บรรยากาศ romantic ขนาดนี้ ในค่ำคืนวันวาเลนไทน์.. เลยอดใจไม่ไหวที่จะมอบของขวัญครับ TA DA!!!!!



Music box เพลงลูกอม พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับ Sapporo ... ชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลาย ตุลาคมครับ Wow!!!! คุณแฟนถึงสตั๊นท์ไป 3 วิ เพราะอยู่ดีๆก็มีเสียงเพลงจาก music box ลอยมาตามลมท่ามกลางอากาศเย็นๆและวิวสวยๆ

ซาบซึ้งกันไปเรียบร้อย ก็กลับลงมาครับ... หิวแระซิทีนี้ เดินกลับมาผ่านห้างสรรพสินค้าตรง JR Nagasaki เลยจัดไป เพราะหิวมาก

ฝากท้องไว้กับ AMU plaza ครับ



ถ่ายรูปส่งโพยไปให้เซียนแป๋วดู เลยได้คำแนะนำว่าให้กินร้านแถวที่ 2 จากข้างบน ร้านที่ 2 จากซ้ายมือ .. เป็นอาหารชื่อดังของที่นี่ครับ เลยลากขากันมาที่ชั้น 5

หน้าร้านเป็นแบบนี้เลย... ร้านอาหารที่ญี่ปุ่นนี่ชอบจัดอันดับเน๊อะ 5555


เลยขอเลือกอันดับ 1

คุณแฟนเลือกอันดับ 3

อันดับ 1 ออกมาหน้าตาแบบนี้คับ
ซุปเข้มข้น มันๆเค็มๆ ฟินมาก

ส่วนจานนี้อันดับ 3 เป็นหมี่กรอบ อร่อยไม่แพ้กัน


ปิดท้ายก่อนนอนด้วยไอตริมมมม เย้!!!
มาทริปนี้ทานไอติมเยอะมาก ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้ำหนักจะเป็นยังไง

มีให้เลือก 2 รส.. ขอเป็น Royce ชาเขียวแระกัน.... ฟรินมากกกก หลับฝันดีแระครับ

โพสถัดไป Day 2 - จิไปเที่ยว Huis Ten Bosch คร๊าบบบ แล้วจะรีบเขียนนะครับ (ปาดเหงื่อเล็กๆ นี่แค่วันแรกเท่านั้น)

ตามกันไปอ่านเลยคร๊าบบบบ ...
Sweet Fukuoka day 2 - Huis Ten Bosch
Sweet Fukuoka Day 3 - One Fine Day in Nagasaki
Sweet Fukuoka Day 4 & 5 - Omg! from Beppu to Hakata
Sweet Fukuoka day 6 - Slow Life @ Yufuin
Sweet Fukuoka day 7-10 ~ Kumamoto หมูคุโรบุตะ ฟินเฟร่อ!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น