Sweet Fukuoka Day 4 & 5 - Omg! from Beppu to Hakata

สวยงามมาก.... อยากจะจิบ บลูมาการิต้า ขึ้นมาทันที... เอ๊ะ เกี่ยวมะเนี่ย

ก่อนจะเม้ามอยไปไกล ขอ แปะ แปะ ของ วันแรกๆ ก่อนนะครับ

Sweet Fukuoka Day 1 - Yūtoku Inari Shrine, Nagasaki, Mt.Inasa
Sweet Fukuoka Day 2 - Huis Ten Bosch
Sweet Fukuoka Day 3 - One Fine Day in Nagasaki

ม่ะๆ ... วันนี้จะพาไปเที่ยวกันต่อนะครับ
วันนี้เป็นวันแรกครับที่จะใช้ JR Rail Pass (5-day Pass)
ด้วยความที่ว่า Plan ของ Beppu คาบเกี่ยวกันสองวันครับ เลยทำรวดเดียวเลย day 4 & day 5

นี่เลยครับหน้าตาของ Kyushu JR Rail Pass ที่ซื้อมาตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบิน Fukuoka ซื้อแบบ 5 วันมาครับ

มาดูด้านในกัน... ด้านในจะระบุว่า เริ่มใช้วันไหน หมดอายุวันไหน ... ตอนเดินเข้าออกจากสถานี ก็ต้องโชว์หน้านี้ให้กับเจ้าหน้าที่ดูครับ โดยเดินเข้าออกทางช่องพิเศษ ที่มีเจ้าหน้าที่ยืนประจำ (ไม่ใช่ช่องที่เข้าออกแบบสอดตั๋วนะครับ)

ด้านหลังมีบอกด้วยครับ ว่าไปเส้นไหนได้บ้าง เมืองไหนได้บ้าง จะมีข้อยกเว้นในการใช้ Shinkansen ครับ คือระหว่าง Hakata กับ Kokura ไม่สามารถใช้ pass นี้ในการขึ้น Shinkansen ได้ครับ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่เลย เพราะยังมีอีกหลายขบวนให้ขึ้น ส่วนคนที่อยากขึ้น Shinkansen ก็ยังสามารถขึ้นตอนวิ่งจาก Hakata ไปกลับ Kumamoto ได้ครับ

ม่ะ... รอบแรกวิ่งยาวนิสนุง (ไม่อยากจะบอกว่า ปัญหามาจากการจองโรงแรมครับ พอจองโรงแรมไม่ได้เนี่ย ชีวิตลำบากทันที) เพราะใจจริงอยากจะเดินทางไปกลับจาก Hakata แต่โรงแรมที่ Hakata เต็มเร็วมากเลยต้องมีย้ายเมือง

การเลือก route เลยไม่เอา route 1 ครับ... เพราะมี shinkansen ซึ่ง pass ใช้ไม่ได้ เลยเลือก route 2 แทน.. ก็โอเคนะครับ จะได้นั่ง Limited Express Sonic ด้วย .. ดีใจๆ ... แต่ก็มีลุ้นนะครับ เพราะว่าตอนไปถึง Hakata มีเวลาให้เปลี่ยนขบวน จาก Kamome มาเป็น Sonic แค่ 5 นาที... เอาวะๆ มาลุ้นกัน

ผลสรุป คือ ..​มัวแต่ลากกระเป๋าตอนเปลี่ยนขบวน... เลยไม่มีรูปอะไรมาเลย
ฉนั้นเราจะวาร์ป .... มาที่ Beppu โดยไว 5555
นี่เลย สถานี JR คับ มีคุณลุงในตำนานอยู่ ...​ตำนานว่าอย่างไร ไปหาอ่านเองนะครับ พอดี DinDin ไม่ค่อยเน้นประวัติศาสตร์ ขอโทษที ... เดี๋ยวเรื่องอาหารค่อยว่ากันอีกทีนะ หุๆ

อากาศเย็นสบายจนบางคนบอกร้อน..... (คุณแฟนร้อนจนเหงื่อแตก .. เอิ่มส์)

มาถึงที่พักแล้วครับ ... คราวนี้พักที่ Nogami Honkan ตอนจอง จำไม่ได้ว่าทะมัยจองที่นี่ คือแบบว่าจองผ่าน Booking.com แล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าได้ rate แพงกว่าอีกหลายคน ...​แสนจะเจ็บใจ
แต่โชคดีคือที่นี่ มีห้องอาบน้ำในตัว และยังมีห้อง Onsen ที่เป็น private อีกด้วย ก็เลยพอทำใจได้ หุๆ

ห้องที่ได้มาครับ... Japanese style เกร๋ๆ พร้อม คอสตูมวางไว้ในถาดอย่างเรียบร้อย

ตอนเช็คอิน ...​ เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าให้เลือกจองเวลาสำหรับการใช้ private onsen ไว้เลย (ไม่งั้นเดี๋ยวคิวจะเต็มนะ) ก็เลยจองเอาไว้ตอน 5 ทุ่มครับ อิๆ เห็นหน้าตาแบบนี้ ก็ขี้อายนะคับ มาดึกๆ หน่อยน่าจะดีกว่า ไม่ต้องเจอคนเยอะ

เสร็จแล้วก็เปิดรีวิวของเซียนญี่ปุ่นผู้คอยชี้แนะทุกอย่างในทริปนี้ครับ .... เลยได้จุดหมายปลายทางแห่งแรกมาแระ นั่นคือร้าน Toyotsune (เรื่องกินๆ ต้องมาก่อนอื่นใด)

ขอกราบงามๆ ที่ตักของ Nu Paew เซียนญี่ปุ่นของเราครับ (ขออนุญาตนำรูปเซียนมาโชว์ซะหน่อย)

ร้านนี้ขายอะไร.... เป็นร้านขายเทมปุระ ชื่อดัง เวลาเปิดตามด้านล่างครับ ส่วน การเดินทาง ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก ... ถามตรงรีเซพชั่น เค้าก็ยื่น map มาให้เลย (จิงๆอ่านตามที่แป๋วบอกก็ได้ แต่ด้วยความที่ว่า เห็นเจ้าหน้าที่โรงแรมคุยภาษาอังกฤษรู้เรื่อง เลยถามซะหน่อย 555)

ถ้าอยากดูแผนที่ของร้านเค้าเองเลยตามเว็บ ก็ ลิ้งค์นี้ครับ http://www.toyotsune.com/access.html
หรือถ้าดูตาม map โรงแรม ก็ง่ายๆ เดินออกมาจากโรงแรม เลี้ยวขวาที่ถนนเมน จนถึงอุโมงลอดใต้แยก ลอดมาครับ... จะเจอร้าน Jolly Pasta ตอนขึ้นมา เลี้ยวขวาเข้าซอย ข้างๆ ร้านพาสต้าเลยครับ

ซอยนี้นะ ...​จะมองเห็นกำแพงเหลืองๆ ด้านขวามือ ร้านอยู่ตรงนั้นเลยครับ

เดินเลี้ยวขวามา จะเจอประตูทางเข้าร้านครับ .... แต่ ...​ปิดจ้า... ร้านเปิด 5 โมงเย็น ... คือไม่ได้ศึกษามาก่อน พลาดอย่างแรง ก็เลยไปนั่งทานสตาร์บัคส์รอที่ห้างใกล้ๆ ครับ

พอได้เวลาก็รีบเดินมาที่ร้านครับ...ซึ่งแบบว่า นี่ขนาดมา 5 โมงตอนร้านเปิดแล้วนะเนี่ย คนยังเริ่มเยอะแล้วเลย งงมาก... สงสัยจะอร่อยจริง ก็เลยถอดรองเท้าใส่ตู้ไว้ครับ แล้วมานั่งติดเชฟเลย อิๆ

นี่จ้า เมนูชื่อดังของร้าน คือ ข้าวหน้าเทมปุระ ซึ่งฉานแปลไม่ออก (พยายามใช้โปรแกรมแปลภาษาช่วยแล้ว แต่ก็ยังแปลไม่ออก) เลยตัดสินใจสั่งแบบ 750 เยน ไปแระกัน

เอามาดูต่างหน้าเวลาหิวก่อนครับ

ของจริงมาแล้ว ฟรินมากๆ ....บอกเลยว่าอร่อยสุดๆ กรอบนอก นุ่มใน กุ้งตัวโต น้ำราดจุ๊ยซี่ .... ผมกะคุณแฟนเลยให้ไปเลย 5 ดาว กะว่าจะมากินอีกทีพรุ่งนี้ตอน 11 โมงเช้า 5555

จากนั้นก็แพลนว่าจะไป Aquarium ครับ ... เพราะคุณแฟน เห็นโบรชัวร์เขียนว่า เปิดกลางคืนด้วย ก็เลยนั่งรถไปกัน ...
ปรากฏว่า Aquarium ปิด... อ่านดีๆ ปรากฏว่า เค้าเปิดกลางคืนเนี่ย เปิดแค่บางช่วง ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี เซ็งบุย ก็เลยนั่งรถเมล์กลับมาที่โรงแรมครับ ตอนขึ้นลิฟท์ เค้าก็มีแนะนำด้วยนะครับว่ามี Sand Bath อยู่ใกล้ๆ โรงแรมด้วย ชื่อ Takegawara Onsen เลยถ่ายรูปมาดูซะหน่อย ...​สุดท้ายก็ไม่ได้ไปจ้ะ 5555

ด้านล่างนี่คือภาพตัวอย่าง Sand Bath (ที่ไม่ได้ไป) ครับ เดี๋ยวจะเล่านะว่าทะมัยไม่ได้ไป หุหุ

ใกล้เวลานัดแล้วครับ...ก็ที่จอง private onsen ไว้ ... คอสตูมพร้อม!!!

เดินไปรับกุญแจห้อง private onsen จากเค้าเตอร์รีเซพชั่นครับ...ห้อง private onsen จะอยู่มุมในสุดของชั้น 2 เลยครับ ดูแผนที่ดีๆเด๊ออออ อย่าเข้าผิดห้อง... ห้องนี้จะล๊อคไว้ตลอดเวลา และให้ใช้เฉพาะคนที่จองคิวไว้เท่านั้นจร้ะ ไม่งั้นก็ต้องไป onsen รวมนะคร๊าบ 

ในห้องมีอธิบายไว้ชัดเจนถึงวิถีออนเซนที่ถูกต้อง ....และ...มีเป็นภาษาไทยด้วย ว่ะ ฮ่ะ ฮ่า

มีฟามสุข ...(แต่ตอนแรก ร้อนมากกกกก!!! แตะน้ำแล้วแตะน้ำอีก...ทะมัยมันร้อนอย่างงี้ เปิดน้ำเย็นเติมลงไปอีกตั้งเยอะ กว่าจะลงไปได้)

หน้าตาห้องแบบนี้จ้า ...ดูเก่าๆ แต่ก็สะอาดนะ ...น้ำร้อนมาก เชื้อโรคทุกชนิดน่าจะตายหมด มีก๊อกน้ำเย็นให้เปิดได้ด้วย ถ้ารู้สึกว่าร้อนไป

แช่ไป แช่มา เกือบครบชั่วโมงครับ... คุณแฟนก็บ่นว่า ร้อนๆๆๆๆ ...และนี่แหละ ก็ได้ข้อสรุปว่า ... ถ้าพรุ่งนี้ไป sand bath แล้วร้อนขนาดนี้ ไม่ไปดีกว่า ซะงั้น....​แอบเสียใจเล็กๆ เพราะอยากลอง sand bath ไม่เป็นไร เพราะจิงๆ เรายังมี Hell Tour ที่เรายังไม่ได้ไปอีก บวกลบคูณหาร เวลาดูแล้ว ไป Hell Tour จะดีกว่า เพราะเป็น A Must ที่จะต้องไปเที่ยวให้ได้ (ถ้าจำ plan trip ได้ ตั้งใจว่าจะไป Hell Tour ตั้งแต่ตอนบ่ายๆ ... แต่ก็นะ ไม่สามารถจิงๆ เพราะเน้นกินเป็นหลัก เที่ยวเป็นรอง ก็ต้องทำใจ หุๆ)

เช้าแระ...  จัดเต็มกับอาหารเช้าแบบน่ารักๆ ไส้กรอก กรอบเด้งกรุ๊บๆ อร่อยยิ่งกว่าบุชเช่อร์ ไก่คาราเกะน่ารักมุ้งมิ๊งและอร่อยไม่แพ้เรสตัวรอง ตบท้ายด้วย Pepsi zero special ที่เคลมว่ามี dextrin (Suntory ผู้เป็น distributor in Japan อ้างว่าช่วยลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกาย) ชั้นตกเป็น #ทาสการตลาด อีกจนได้ 

พร้อมแล้วครับที่จะไปทัวบ่อนรกทั้ง 8 ...​แต่ก็นะ ตกลงกะคุณแฟนไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะไปแค่ 6 บ่อพอ เพราะ 6 บ่อแรกจะอยู่ใกล้ๆ กัน เดินเที่ยวได้... แต่บ่อที่ 7,8 จะต้องนั่งบัสต่อไปอีกแสนไกล เลยไม่ไปดีกว่าเสียเวลา (บังเอิญว่ามีคนอยากไปช๊อปปิ้งที่ Hakata ไวๆ หุๆ)

อันนี้เป็นหน้าตาโบรชัวร์ที่ไปขอจาก information center ในตัวเมืองมามะวานครับ อธิบาย 8 บ่อไว้อย่างชัดเจน

การเดินทางคร่าวๆนะครับ ต้องขึ้นบัสจาก Beppu Station WEST นะครับ นั่ง bus หมายเลข 5 หรือ 9 ก็ได้ ประมาณ 17  นาที เพื่อไปลงสถานี Umi Jigoku mae ครับ (บ่อสีฟ้า) ค่าเสียหาย 330 Yen ครับ .... ไม่อยากจะบอกว่า 17 นาทีจิงๆ ด้วยความไม่มั่นใจเลยไม่ลง ... เลยป้ายเลยซะงั้น แทนที่จะได้เริ่มจุด start ดีๆ เลยไปลงป้าย Kannawa ครับซึ่งเป็นปลายทางของบ่อที่ 6 ทริปผมเลยแปลกๆ หน่อยนะ คือเดินย้อนจากบ่อที่ 6 มาหาบ่อที่ 1 ... กลุ้มเบย

มาว่ากันด้วยวิธีการขึ้นบัสสักหน่อย... อย่างที่บอกว่าตอนขึ้น ให้ขึ้นจากท้ายรถบัสครับ แล้วหยิบเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ มาด้วย ที่จะบอกว่าเราขึ้นจากสถานีหมายเลขอะไร พอดีมานั่งแถวๆ หน้ารถเลยได้มีโอกาสถ่ายรูปไว้ครับ

ระหว่างที่รถวิ่งไป ตัวเลขค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้เราดูที่ป้ายไฟด้านหน้ารถครับ ตามรูป เราก็ดูว่า หมายเลขที่เราหยิบมาตอนขึ้นรถน่ะ เบอร์ไร แล้วตอนนี้ค่าโดยสารที่จะต้องจ่ายเท่าไรครับ

ตอนจะลงก็นำเงินหย่อนใส่ช่องเบอร์ 3 ตามรูปด้านล่างครับ... แต่ถ้าไม่มีเศษเงินที่พอดี เค้าก็มีบริการแลกเหรียญให้นะครับ หย่อนเหรียญหรือแบ๊งค์จากโซนหมายเลข 1 แล้วก็จะได้เงินเหรียญย่อยๆ ออกมาจากช่องหมายเลข 2 ครับ

ส่วนหมายเลข 4 คืออะไร... อันนี้สำหรับคนที่ขี้เกียจพกเหรียญครับ ไม่อยากเสียเวลานับเหรียญให้วุ่นวาย ไม่อยากต้องเก็บตังทอนให้หนักกระเป๋า... ใช่เลยครับ ใช้บริการ IC card ได้เลยครับ โดยที่ตอนขึ้นรถจากท้ายรถ...แทนที่จะหยิบเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ มา เราก็เอา IC card (ที่เติมเงินมาแล้วนะ) แปะ 1 ทีตรงทางขึ้นด้านท้ายรถครับ นั่งไปเรื่อยๆ ถึงจุดหมายปลายทางมะไรก็มะแปะตรงแท่นหมายเลข 4 ตอนลงรถครับ ง่าย และสะดวกสบายมากๆ

ม่ะ... มาถึงบ่อที่ 6 แระครับ พลาดมาลงตรงสถานี Kannawa แล้วก็งงๆ กับการดูแผนที่สักพักนึง ก็เดินมาบ่อที่ 6 สำเร็จไปด้วยดี ค่าเข้าชม 8 บ่อ เค้ามีแบบเหมาจ่ายให้ครับ อยู่ที่ 2100 เยนครับ แต่ถ้าดูบ่อเดี่ยวๆ เสียบ่อละ 400 เยนครับ ...​คิดไปคิดมาว่า มันอยู่ติดกันหมด 6 บ่อ ถ้าเสียเดี่ยวๆ ก็คงไม่คุ้ม เอาวะ จ่ายไปเลย 2100 เยน ...​คือตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมีไรน่าสนใจ หุๆ สิ่งที่ได้มาคือ ตั๋ว สำหรับ 8 บ่อ ... จะมีหางตั๋วให้พนักงานเค้าฉีกออกเวลาจะเข้าไปชมบ่อไหนๆ ก็ตามอ่ะคับ พร้อมแผ่นพับสีแดงแปร๊ดดด เปิดดูข้างในเป็นแผนที่ครับ

แหม.. สวยงาม ... ชอบแผนที่ญี่ปุ่นจิงๆ น่ารักมาก แต่อ่านไม่ออก ..​เวรกรรม ...​เลยต้องกลับไปดูแผนที่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจาก information center ต่อไป แต่ด้านหลังของแผ่นพับนี้ มีโซนให้เก็บสะสมตราประทับด้วยนะครับ ...​ว่าคุณได้ผ่านด่านไหนมาบ้างแล้ว  สนุกดี ทำให้เราต้องตามล่าหาตราประทับ ประจำบ่อต่างๆ ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามาไม่ถึง 5555

บ่อที่ 6 เค้าเรียกว่า Shiraike Jigoku (White Pond Hell) ครับเพราะสีของน้ำ ออกไปทาง ขาวขุ่น อมฟ้านิดๆ เหมือนน้ำนม บ่อนี้ตกแต่งโดยรอบเป็นสวนญี่ปุ่นงามๆ ...

มาถึงบ่อที่ 5 Oniyama Jigoku ... บ่อนี้มาแรงครับ ไอน้ำเยอะมาก (ถ่ายรูปมา แต่มีแต่ไอน้ำ เลยไม่รู้จะเอามาลงทะมัย) เค้าบอกว่า ไอน้ำจากบ่อนี้สามารถขับเคลื่อนรถไฟได้เลย ความแรงของนางยังไม่จบ ด้วยระดับความร้อนแบบนี้ เค้าบอกว่าอุณหภูมิของน้ำเหมาะกับการผสมพันธุ์ของพี่จระเข้ครับ เลยเจอบ่อเลี้ยงจระเข้เยอะมากครับ

แวะถ่ายรูปกับคุณลุง demon ประจำบ่อน้องเข้สักหน่อยก่อนออกจากบ่อนี้ครับ

มาถึงบ่อที่ 4 (ย้อนศรมาเรื่อยๆ) ชื่อว่า Kamado Jigoku ครับ ... ที่มาที่ไปก็คือว่าบ่อน้ำพุร้อนที่นี่เค้าใช้ทำอาหารครับ ก็เลย มี demon อยู่บนหม้อทำอาหารเป็นมัสคอทน่ารักๆ

มาดูหม้อกันใกล้ๆ นะ... อย่าสนใจพี่บราวน์นะครับ หุๆ

เดินไปเรื่อยๆ จะมีบอกเป็นระยะๆ ว่าบ่อไหน โซนไหน อุณหภูมิเท่าไรครับ

ตรงนี้เจ๋ง เห็นคนญี่ปุ่นเอาหน้ามาอัง เหมือนอบไอน้ำกัน เลยเอาบ้าง ชุ่มชื่นดี และได้แร่ธาตุจากบ่อน้ำแร่ไปบำรุงผิว หุๆ

เดินเข้ามาได้ลึกเชียวครับบ่อนี้ ... ระหว่างทาง มีบ่อต้มไข่ เป็นระยะๆ คนญี่ปุ่นก็กินไข่ต้มกันเป็นจริงเป็นจังมาก เหอๆ

อันนี้บ่อไหนไม่รู้ ขออภัย เหอๆ ดูเพลินๆไปนะ บรรยายไม่ถูก จำไม่ได้จิงๆ ซอรี่นะ

ม่ะ อันนี้จำได้แระ... บ่อที่ 2 (เลยเดาว่า บ่อแดงก่อนหน้านี้เป็นบ่อที่ 3 นะ แต่ก็ไม่กล้าฟันธง)
บ่อนี้ชื่อว่า Oniishibozu Jigoku เป็นบ่อโคลนเดือดครับ ปุดๆๆๆๆ เป็นระยะๆ เลย

ที่บ่อที่ 2 นี่ จะมีโซนให้นั่งแช่เท้าด้วยครับ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ร้อน เห็นคนญี่ปุ่นนั่งแช่กัน หน้าตายมากๆ ... ผมนี่ต้องแตะอยู่นานมาก จุ่มนิด จุ่มหน่อย แย่เท้าลงไปทีละนิด ใช้เวลานานมากกว่าจะจุ่มลงไปทั้งขาได้ สุดๆแระ

และแล้วก็จะไปถึงบ่อที่ 1 ... บ่อสุดท้ายแระ (บ่อ 7,8 ไม่ไปนะ อย่ามาเซ้าซี้) ... แต่เดินผ่านร้านนี้แล้ว เห็นอะไรแว๊บๆ เหมือนจะเป็นไอตริม ... ว้าวๆๆๆๆ แวะซะหน่อยแระกัน

ปรากฏว่าคุณแฟนทำการบ้านมาดีอีกแล้ว ว่าจะต้องลองนะ คัสตาร์ทของที่นี่ มันฟรินมากๆ ก็ได้ลองดู

250 Yen นะ ถ้าจำไม่ผิด หน้าตาแบบนี้... ไม่ควรพลาด บอกเลย หร่อยมาก ย้ำมี่สุดๆ

และแล้วก็มาถึงบ่อที่ 1 ครับ บ่อนี้ชื่อ Umi-Jigoku ครับ มีความลึกถึง 200 เมตร และมีสีฟ้าโคบอลท์ สวยงามดุจทะเล แต่ก่อนจะไปถึงบ่อสีฟ้าสวยงามนั้น ต้องผ่านบ่อบัววิคตอเรียก่อน เค้าบอกว่าบัวยักษ์นี้ จะใหญ่โตอลังการมาก ในช่วงเดือน May - November  ...(นี่ช้านมาไม่ถูกเดือนอีกแล้วใช่ม๊ะเนี่ย) ถ้าช่วงเดือนนั้น จะสามารถจับเด็กมากิน เอ้ย...​จับเด็กตัวเล็กๆ มายืนบนใบบัวได้เลยครับ

ผ่านบ่อแดงๆ อีกบ่อนึงก่อน ไอน้ำเยอะมาก ก็ตื่นเต้นแล้วนะ แล้วก็เดินตามหาตราประทับของบ่อนี้กัน เพราะเป็นบ่อสุดท้ายแระ เดี๋ยวจะไม่ตราประทับไม่ครบ

หลังจากเจอตราประทับ... หันหลังมาก็ได้เจอกับความสวยงามแบบสุดๆ ของบ่อที่ 1 .... โอร้ววว นี่เอง สีฟ้าโคบอลท์

งามเน๊อะ...

นี่คร๊าบ..ได้ครบแระ  6 บ่อ (บอกมาได้ว่าครบ 6 บ่อ ...​เค้ามี 8  บ่อมะใช่หรอ 5555) หน้าด้านมากๆ ช้าน

ได้เวลาเดินทางกลับเข้าตัวเมือง Beppu ครับ คราวนี้แหละได้ขึ้น bus จากสถานี Umi Jigoku-mae จริงๆซะที นั่งกลับมาอีก 17 นาที ก็ถึง JR Beppu station WEST ครับ

หิวแระ ทีนี้ทำไงดีล่ะ ...​เลยใช้ลายแทงของโรงแรม Nogami Honkan ครับ... หาราเมนอร่อยๆ กิน เลยเจอร้านนี้ครับ ใกล้มือใกล้เท้า (คือแบบว่าจะต้องกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากโรงแรมไว้ตั้งแต่เช้าด้วย)

ร้านนี้ชื่อร้าน Tairiku ครับ อยู่ตรงแยกใกล้ๆ ปากทาง shopping street เลย

ดู map ประกอบก็ดีคับ อิๆ พร้อม GPS 

33.279263 131.504574

Copy ไปแปะใน apple map ได้ครับ

เหล่ๆ หน้าร้านครับ ... น่าสนๆ

ใช้วิธีเดิมเลย ... ถ่ายรูปจากหน้าร้าน จบนะ..ซึ่งคุณแฟนเลือกชามนี้

ชามนี้ได้ออกมาแบบนี้ ...​อาจดูไม่ค่อยเหมือนที่โชว์หน้าร้านเท่าไร ... ผิดหวังเล็กน้อย

ส่วนชามนี้ของผมเอง

ซุปเจ้มจ้น ... ผ่านมาตรฐาน DinDin ครับ

เดินออกมาจากร้านราเมน เจอ Daily Yamazaki อยู่ฝั่งตรงข้าม

ร้านนี้แหละที่ของกินอร่อย สู้ 7 กะ Family Mart ได้เลย ... คือร้านที่ซื้อไส้กรอกกะไก่ป๊อปมะเช้าน่ะแหละครับ strongly recommended!!!

วันนี้ทานไอตริมล้างปากครับ...ซึ่งแกะออกมาแล้วไม่โดนอ่ะ หวานไป ...ผิดหวังมาก T_T

ได้เวลาอันควร...เช็คตารางรถไฟจาก Hyperdia เรียบร้อย ก็ลากกระเป๋าไปขึ้น JR ครับ ...คราวนี้สมใจแระ ได้ขึ้น Limited Express Sonic

หยิบคอมมานั่งทำงานซะหน่อย ...ชิลๆ

มาถึง Hakata แระครับ ... เข้า check-in ที่ Toyoko-Inn Gion ...เราจะนอนที่นี่ 2 คืนครับ 

ออกมาเดินเล่นบริเวณใกล้เคียง ตามหาร้านไอตริมชาเขียวเป็นการแก้แค้นที่ Lotte อันมะกี้ไม่อร่อย

ร้านนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Toyoko-Inn Gion ครับ มาตามเซียนญี่ปุ่นอีกท่านนึงครับ คุณ "Poppy Kung" ยกเครดิตให้เลย ที่กินที่เที่ยวญี่ปุ่น ถามเฮียแกได้เลยฮับ

เข้ามาในร้านรีบมองหาก่อนเลย กลัวหมด เพราะมาบ่ายแก่ๆแล้ว....ดีใจ ยังไม่หมด เหมือนฟ้าประทานจริงๆ ^^

ร้านนี้เซียน Poppy Kung ของเราอีกท่านได้กล่าวไว้ว่า "ร้านนี้ อร่อยมาก ไอติมชาเขียวฟินเว่อร์

วันนึงทำขายจำกัด

สถานี Gion ทางออก 1

ออกปุ๊ปเจอปั๊ป

ในร้านมี เซมเบ้แบบพรีเมียมด้วยครับอร่อยมาก"

ฟินจริงคับ Matcha เจ้มจ้น เนื้อหนุบหนับ 

จาก Beppu มา Hakata ...ยาวมากโพสนี้

สำหรับ Day 6. จะยาวยิ่งกว่าครับ เพราะเราจะไปเที่ยว Yufuin เมือง slow life กัน แถมจะได้นั่ง Yufuin No Mori ทั้งไปและกลับด้วย มีความสุขมากๆครับ

ติดตามโพสถัดไป Day 6 - Slow Life @ Yufuin กันได้เลยครับ

ส่วน day 7-10 ก็เขียนเสร็จแว้ว... ตามไปอ่านที่ link นี้ค๊าบ

Sweet Fukuoka day 7-10 ~ Kumamoto หมูคุโรบุตะ ฟินเฟร่อ!!!