วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

Sweet Fukuoka day 6 - Slow Life @ Yufuin


รูปนี้..special thx to หมีบราวน์ที่น่ารักที่สุดครับ ช่วย design compose เก๋ๆ ให้ ^^


แปะ แปะ trip วันก่อนครับ เผื่อเพื่อนๆยังไม่ได้อ่านกัน

คำเตือน!! บอกไว้ก่อนเลย วันนี้เป็นวันที่ทานเยอะที่สุด หลายเมนูที่สุด แบบไม่อยากจะเชื่อเลย OMG!!!

19 Feb 2015 ... วันที่ 6 ของทริปนี้แล้วครับ 5 องศาจร้า ได้รับคำเตือนจากเซียนญี่ปุ่น Nu Paew มาล่วงหน้าแล้ว ว่าที่ Yufuin จะหนาวที่สุดแล้วนะของทริปนี้ ... เป็นจริงดังคำเตือนด้วยอ่ะ

วันนี้ ตามแพลน บอกเลย 55555 เพราะหนึ่งในขบวนรถไฟที่ต้องมานั่งให้ได้ของทริปนี้ก็คือ 

~ JR Yufuin No Mori

เป็นขบวนที่ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ 1998 Good Design Award และ 1999 JID Interior Space Category Award ... ด้วยการตกแต่งภายในเป็นลายไม้และสีเขียวที่ลงตัว กลมกลืนไปกับทิวทัศน์ภายนอก ป่าไม้ ลำธาร ภูเขา น้ำตก จนฟินไปกับบรรยากาศชิลๆ

Yufuin เป็นเมือง slow life คล้ายปายของเมืองไทย(รึเปล่าก็ไม่รู้นะ) แต่โรแมนติกกว่าเยอะ เลยเป็น destination ของคู่รักอีกหลายๆคู่ ทำให้จะมาขบวนนี้ต้องจอง seat ล่วงหน้าเท่านั้น อย่างวันนี้ เต็มทุก seat จริงๆ สุดยอด!!!


ข้อมูลเพิ่มเติม นี่ครับ http://www.jrkyushu.co.jp/english/train/train_index.jsp


เดี๋ยววิธีการจอง seat จะเล่าให้ฟังตอนท้ายรายการนะครับ อิอิ...มาขึ้นรถไฟกันก่อน

ขึ้นมาปุ๊ป รีบสำรวจที่นั่ง... มี free wifi ให้ใช้ เด็ดมาก (แต่ใช้ไปใช้มา เหมือน pocket wifi จะเร็วกว่านะ 555)

ต่อมาก็เป็นเมนูครับ ...กวาดสายตาทันที ว่าจะกินไรดีน๊า 555 มีข้าวกล่องด้วย (แต่อ่านรีวิวมา เค้าว่าไม่หร่อย หุหุ) เลยกะว่าจะลองไอตริมเย็นๆ เดี๋ยวรอถ่ายรูปก่อนนะค่อยไปสั่งอาหาร

อีกสักพัก มีพนักงานสาวสวยเข้ามาแนะนำขบวนรถไฟครับ (คิดว่านะ เพราะฟังไม่ออก)

และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอยครับ ขบวนนี้เค้าพิเศษตรงนี้แหละ มีให้ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกด้วย ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มานั่ง Yufuin No Mori แล้วนะจ๊ะ มีพร๊อพให้ด้วย ทั้งหมวกกัปตัน กะหมวกแอร์รถไฟสาวสวย เลยขอเป็นหมวกกัปตันมาถ่ายคู่กะหมีบราวน์น่ารักๆ ครับ

ถ่ายรูปเรียบร้อย ตรงดิ่งไปตู้ที่ขายอาหารครับ ชี้ ชี้ ชี้ แระก็ชี้ ก็เลยได้ไอตริมน่าทานอร่อยๆ เป็นตริมวนิลา กะตริมนมถั่วเหลืองคับ แระก็กาแฟดำ หุๆ

ไปเหน็บ postcard ที่เค้ามีวางไว้ด้วย .... stamp ตราประทับของ Yufuin No Mori เรียบร้อย เอามาเป็นที่ระลึกครับ

ในรูปเป็นตริมวนิลาครับ อร่อยมาก ... ส่วนอันที่ฝาขอบทองๆ นั่น นมถั่วเหลืองซึ่งผมก็ว่าโอเคนะ แต่คุณแฟนไม่ชอบซะงั้น 555

นั่งมาอีกสักแป๊บก็ถึงแล้วครับ Yufuin ... เย้ๆๆๆ

ทำการบ้านมาระดับหนึ่งนะ นี่คือร้านที่จะต้องไปทานครับ ถ้าไล่จากสถานีรถไฟมานะครับ เดินมาเรื่อยๆ ร้านแรกที่จะเจอคือ B-Speak ครับ

B-Speak ร้านเบเกอรี่ชื่อดัง Roll Cake เทพมาก ขอบคุณรูปจาก Nu Paew และจาก Google จร้า


เห็นแล้วน้ำลายสอขึ้นมาทันที...แต่...​พอไปถึงที่ร้าน Roll Cake กล่องเล็กหมดแล้ว แงๆ เค้าบอกว่าเหลือแต่กล่องใหญ่ ...ไม่รู้อะไรมาดลใจก็ไม่รู้ ทำให้ ...​"ไม่ซื้อ" เพราะเซียน Nu Paew บอกว่า สามารถมาซื้อได้บน Yufuin No Mori ขากลับ เอาวะรอขากลับก็ได้ (สุดท้ายรู้ม๊ะ คู้นนนนนน ...​บนรถไฟ ก็บอกว่าขายหมดแล้ว อดกินเลย) ร้องไห้ กระซิก กระซิก เสียใจสุดๆ

เป้าหมายต่อไปเลยเป็นร้าน Cucuchi Korokke ครับ คร้อกเก้แสนอร่อย ที่พลาดไม่ได้ เดินมาจาก B-speak  อีกนิดเดียวครับ เดินเพลินๆ เน๊อะ อากาศชิลๆ 5 องศา หุๆ

มาถึงแระ... ตอนแรกอ่านในโพย เค้าบอกให้สังเกตซ๊อฟครีมขนาดยักษ์ใหญ่ ที่อยู่หน้าร้าน (หลังๆ เริ่มสำนึกได้ว่า ไอ้ซ๊อฟครีมยักษ์เนี่ย ร้านไหนๆ ก็ไปหามาตั้งไว้ 5555) เลยต้องมาดูรูปเทียบหน้าร้านกันอย่างจริงจังคับ อ่ะ... ร้านนี้นี่เอง

เค้ามีทั้งแบบซื้อเลย กินเลย กะแบบ นั่งกินในร้านด้วย... ก็แบบว่านะ อากาศเย็นๆ แบบ 5 องศา (ไม่หนาวเลย) เลยชักชวนกันไปนั่งกินในร้านดีกว่า ฮีทเตอร์อุ่นสบาย 5555

ซึ่งพอเป็นเมนูแบบนั่งทานในร้าน ...​ไม่ได้ทำการบ้านมาครับ แล้วตอนมาถึงก็เที่ยงๆ แล้ว เลยตัดสินใจสั่ง Sweet Potato ... กะว่า มันจะต้องมาเป็นมันก้อนใหญ่ๆ อร่อยๆ แล้วก็ สั่งคร้อกเก้ มากินด้วย

ได้มาแบบนี้จร้า....

สตั้นท์ ไป 5 วิ .... เวรกรรม ตรูจะอิ่มมั้ย... มากันสองคน สั่งแค่นี้เอง แล้วก็ได้ชาจีนมาอีกคนละถ้วย... เซ็งบุย

แต่... เดี๋ยวก่อน...จอร์จ........ พอได้ทานมันหวานเพียงคำแรกเท่านั้น... อ้าว ไม่ใช่มันเป็นลูกๆ นี่หว่า เป็นขนมที่ผสมเนื้อของมันหวานเข้าไป บร๊ะเจ้า มันอร่อยมาก

และที่ร้านกาจที่สุด... ไรฟระ... ทำมาชิ้นเล็กจัง 2 หนุ่มค่อยๆ เล็มขนมมันหวาน กันจนหมดก้อนด้วยความเสียดาย (ในใจนึกว่า ค่อยไปจัดหนักกันร้านหน้าก็ได้ฟระ)

ส่วนคร้อกเก้...​อร่อยจริงสมคำล่ำลือ... ถ่ายรูปซากปรักหักพังมาให้ดู ยั่วน้ำลายกันเล่นครับ กรอบนอก... นุ่มใน ฟินนนนนนน... แต่ก็นะ ซื้อมาแค่ชิ้นเดียว (ทำไม...ไม่เข้าใจ)

ด้วยความเสียดายที่กินหมดแล้ว (จิงๆ คือจะต้องออกไปเผชิญอากาศหนาวข้างนอกร้าน 555) ...​จำใจ หุ้ม ห่อ พัน กันอย่างดี แล้วเดินออกมา

อีกสักพัก (ตามแผนที่ลายแทงของเรา) ก็มาเจอร้าน Snoopy Chaya ครับ

เป็นร้านค่าเฟ่ของ Snoopy สไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกครับ เป็นการ Mix n' match คาแรคเตอร์ของ snoopy กับอาหารสไตล์ญี่ปุ่นครั้งแรก ทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม (ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Ylouis Louis)

น่ารว๊ากกกกก....

จัดไปซะหน่อย... อร่อย ฟิน กะ ชาเขียว เจ้มจ้น อิๆ

ไม่ต้องตกใจ วันนี้ถ่ายรูปสไตล์นี้เยอะมาก (ไม่รู้ว่าคุณแฟนคึกอะไรขึ้นมา ต้องการรูปภาพแบบนี้ ตลอดทั้งวัน 5555)

มีร้านขายของที่ระลึก Snoopy ด้วยครับ ติดกับร้านขายไอศครีม ... แต่ไม่สน.... เดินมาร้านอาหารเลย 555 ด้วยความเจ็บใจที่มะกี้ ตรูยังไม่อิ่มเรย

เข้ามาแบบว่าโชคดีมากครับ ... ได้คิวแรกเลย... ตอนแรกนึกว่า เออ ร้านนี้ คนไม่ค่อยกินกันเน๊อะ แต่นั่งๆไปเลยรู้ว่า เราสองคนมากันช่วงเวลาเหมาะมาก คือคนน้อย .... พอเราสองคนเข้ามานั่งได้สักแป๊บ ก็เริ่มมีคนมาต่อคิวกันเยอะแยะเลย แล้วก็มีคนนั่งรอคิวยาวเหยียด 

ถ่ายเมนูมาให้ดูบางส่วนครับ อันนี้เมนูของหวาน

ไม่เข้าใจ .... เมนูของหวานทำไมเอามาอยู่หน้าแรกๆ

เมนูของคาว ดันมาอยู่หน้าหลังๆ ....​เห็นแล้วอยากกินมว๊ากกกกกก.... ข้าวห่อไข่ หน้าตาน่ารักมากๆ ... แต่ มีส่วนผสมของเนื้อวัว เลยอดกิน ... พอดีเราสองคนไม่ทานเนื้อวัวกันครับ

เลยนั่งทำตาปริบๆ อยู่หน้าเมนูสักพักใหญ่ เพราะ... หิวมาก... อยากกินคาวๆ ...​แต่ เมนูหนักที่ร้านนี้ ดันมีส่วนผสมของเนื้อวัว... เลยตัดสินใจสั่งของหวานแทน (แงๆ)

สั่งไปแระ... เลยถ่ายรูปบรรยากาศในร้านมาให้ดู... 

มาแว๊ววววววว จานแรก ....จานนี้คุณแฟนสั่ง ดูได้เยอะ อลังฯ

ของผมมาแล้วครับ.... ถั่วแดงล้นมาเลย คริ คริ ฟิน


น่ากินมากกกกกกกกกก.... อร่อยด้วย อาหารประเทศนี้มันอัลลายกันเนี่ย อร่อยทุกอย่าง

ตรงข้ามร้าน Snoopy ครับ (จิงๆ ก็เยื้องๆ กันนิสนุงนะ) เป็นร้านขาย Purin-Dora ที่ไม่ควรพลาด (อ่านรีวิวมาอีกที) 555

สังเกตป้ายนี้หน้าร้านเลยนะครับ... เห็นป่ะ น่ากินมาก... เป็นโดรายากิ และ พุดดิ้ง ที่เอามา สมาสและสนธิ กันอย่างลงตัว ... ซื้อติดไม้ติดมือมาเรียบร้อย กะเอาไว้ทานยามหิว

เดินตามทางมาเรื่อยๆ ครับ ... จิงๆ เจอร้านทาโกยากิยักษ์แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า... พอดีตอนเดินมาถึงคนที่หน้าร้านยังมุงกันไม่ค่อยเยอะ เลยคิดว่าไม่ใช่ ก็เลยเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึง Hot Spring 

ตามรูป... สวยเน๊อะ... แล้วมีไอน้ำ ลอยพริ้วๆ อยู่บนผิวน้ำ... เลยคิดว่า...เฮ้ยยยยยยยย!!! มันร้อนใช่ม๊ะ... ใน map มันก็เขียนว่า Hot spring  มันต้องร้อนแน่ๆ เลย

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่ที่นี่นี่เอง .... ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ น้ำในบ่อเนี่ย ร้อนนนนนนนน แถมมีปลาว่ายอยู่ด้วย

เลยบรรจงเอานิ้วจุ่มลงไปช้าๆ (คือคิดว่ามันจะต้องร้อนมาก เหมือนที่ Beppu แน่ๆ เลย)... ปรากฏว่า... น้ำเย็นเชียว 55555  

มโนไปได้เน๊อะช้าน


เลยเก็บภาพวิวแบบ Apple Time-Lapse มาให้ดูกันคร๊าบ

ฮัดช่า!!!! เห็นยิ้มแย้ม ... จิงๆ หนาวมากกกกกกก รีบบอกตากล้องว่า ถ่ายไวๆ ตรูหนาวมาก

เดินมาอีกหน่อย... เจอป้ายครับ... ป้ายนี้บอกเอกลักษณ์ของ Yufuin อย่างครบถ้วนเลย ดูรูปกันเอาเองนะครับว่ามีไรบ้าง อิๆ

ด้วยความที่ว่า อยากเดินเยอะๆ (มะกี้ทานไปเยอะมาก) แล้วก็คิดว่า ขอเดินหน่อยเถอะ ไม่งั้นจะกินมื้อต่อไปไม่ได้ .....​ความตั้งใจในการทานมื้อหนัก (มื้อเที่ยง) ให้ได้ ยังคงมีอยู่ อิๆ

ก็เลยกะจะเดินไปศาลเจ้า Unakihime Shrine กันครับ เรียบๆ ง่ายๆ .... ส่วนตัวแล้ว บอกเลยว่า ถ้าคุณมีเวลาว่าง คุณค่อยไปนะ เพราะอยู่นอกเส้นทางออกไปไกลพอควร ..​คือไม่ใช่ทางผ่านในตัวเมืองอ่ะคับ

มาอีกแระ ... รูปเดิน เดิน เดิน เนี่ย 555 ว่างมากเน๊อะ

ถึงแระครับ Unakihime Shrine... สวยนะ

ไม่อยากจะบอกว่า.... พอจะเดินกลับเข้าเมือง เกิดจะหลงทางขึ้นมา (เป็นอะไรที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับ DinDinAroundTheWorld เหอๆ ... แต่ก็หลงจิงด้วย

เดชะบุญ.... คุณแฟนใช้ "สัญชาตญาณ" ในการนำทาง ..... พากลับมาที่ตัวเมือง Yufuin ได้สำเร็จ ... ไม่งั้นคงตกรถไฟขากลับไปแล้วแหละ

ด้วยความ "หิว" .... เดินกันมาไกลมาก .... พยายามหาร้านอาหารคาว หนัก หนัก กินให้ได้... แต่ปรากฏว่าหาไม่ได้ (มีร้านเบอร์เกอร์อยู่ร้านนึง น่ากินมากเลย แต่... มีเนื้อวัวอีกแล้ว เลยอด)

เดินกลับมาที่ถนนคนเดินเหมือนเดิมครับ เลยเจอกับร้านทาโกยากิยักษ์ร้านเดิม

คราวนี้มั่นใจแล้วว่า ร้านนี้แหละ ที่เป็น a MUST ... จะต้องมากินให้ได้


ด้อมๆ มองๆ หน้าร้าน... มันใช่เลย ลูกใหญ่ โดนใจ แบบนี้แหละ ตอบโจทย์ของเราสองคนอย่างแท้จริง

เลยสั่งเมนูฮอทฮิทเบอร์ 2 กับเบอร์  3 ไปครับ (ประเทศนี้ จริงๆ เลยนะ ชอบจัดอันดับเมนูยอดนิยม)

อันนี้คือหน้าตาอันดับ 3 ครับ ... ฮึๆ ...​มายองเนส ทะลักมาก

ส่วนนี่ของผมเองครับ...ต้นหอมญี่ปุ่นมาแบบเต็มๆ ชอบมว๊ากกก ไม่ผิดหวัง บอกเลย

ขำมาก ยืนทานตรงหน้าร้านไปจนเกือบหมดแล้ว อยู่ดีๆ ก็มีคนญี่ปุ่นเดินมาถามเลยว่า "โออิชิ เดสก๊ะ" ... ด้วยพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นอันน้อยนิด เลยตอบไปว่า โออิชิจ้า (คือ ความสามารถพิเศษของ DinDin คือ...อินี่ กินอะไรๆ ก็จะแบบว่าเอร็ดอร่อยมาก....ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนมาถามว่าหร่อยป่าว) 555

 สุดท้ายมาขึ้น Yufuin No Mori กลับ Hakata แระครับ ... เซียน Nu Paew แนะนำมาว่า ซื้อ Cider บนรถไฟ ทานคู่กะ Roll Cake ของ B-Speak จะฟินที่สุดใน 3 โลก .... เลยรีบไปซื้อ ปรากฏว่า Roll Cake หมดแล้ว ... แสนเศร้า ก็เลยได้ขนมไรไม่รู้มาทานคู่กะ Cider แระก็ Purin-Dora ที่ซื้อมาจากในตัวเมือง
หน้าตาแบบในรูปคับ

ก็ฟินไปอีกแบบ .... อร่อยนะ บอกเลย อิๆ

ขอขอบคุณ Nu Paew เซียนญี่ปุ่นของเรามา ณ โอกาสนี้ ...​ถ้าไม่ได้นางแนะนำ คงพลาดสิ่งดีๆ จาก Yufuin ไปเยอะเลย อิๆ


กลับมาถึง Hakata แล้วครับ ... เรื่องของเรื่อง วันรุ่งขึ้นจะต้องไป Kumamoto แถมต้องหอบหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ไปด้วย (ไม่น่าเอาใบใหญ่มาเล๊ยยยย.... จิงๆ ต้องบอกว่า ไม่น่าเปลี่ยนโรงแรมเล๊ยยยย) ก็เลยคุยกะคุณแฟนว่า เรา reserve seat กันดีกว่า อิๆ

ก็เลยจะมาเล่าครับ วิธี reserve seat เค้าทำกันอย่างไร

วิธีที่ 1 .... แบบที่ชาวบ้านที่นี่เค้าทำกัน... คือไปที่ information center ของสถานีใหญ่ๆ เช่น Hakata ซึ่งเค้าจะมีบอกเลยว่า การจองที่นั่งของ JR Rail Pass ต้องไปติดต่อที่ไหน ...​กรอกแบบฟอร์ม แล้วก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ ...​แสนง่ายดายครับ... ตามรูปจร้า


วิธีที่ 2 ... เป็นวิธีที่ เซียน  Nu Paew แนะนำ... วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำการบ้านมาดี
รู้แล้วว่า จะนั่งขบวนไหน เวลาไหน และ... แอบขี้โกงเล็กๆ คือไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มครับ แต่ว่า search จาก hyperdia และ print มาเลยจากเมืองไทย.... ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ผมใช้ในการจอง seat ของรถไฟขบวนพิเศษ อย่างเช่น Yufuin No Mori และ Aso Boy ครับ
พอเครื่องบินล้อแตะถึงพื้นปุ๊ป ก็มายื่นเอกสารนี้ ที่ JR Hakata เลยครับ .... เจ้าหน้าที่น่ารักมาก แม้ว่าผมจะมาต่อผิดช่อง 555 เค้าก็คีย์ข้อมูล และ reserve seat ให้... เป็นประเทศที่น่ารักจิงๆ
พอทำการจองที่นั่ง Shinkansen เรียบร้อย และได้รับตั๋วมาแล้ว... สบายใจ

อันดับถัดไปคือหาที่กินครับ เย็นแล้วเน๊อะ...ก้อต้องกินมื้อเย็น 5555

มื้อนี้...เราได้คำแนะนำดีๆ มาจากเซียนญี่ปุ่นอีกคนครับ ก็คือ Poppy Kung ... ป๊อปปี้บอกว่า ต้องมาทานให้ได้นะร้านนี้ 

ร้าน Plancha ครับ

เข้าไปดูเว็บร้านตามนี้ครับ http://plancha-web.com/index.html
อันนี้ชื่อร้านภาษาญี่ปุ่น พร้อมที่อยู่

プランチャ

4 Chome-3-25 Tenjin
Chuo Ward, Fukuoka, Fukuoka Prefecture 810-0001

เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นครับ อร่อยมาก ดูแลดี (จริงๆ) ทางเข้าจากชั้น 1 จะเล็กหน่อย...​คือร้านอยู่ชั้น 2 ครับ

วิธีไปนะ... หาห้างนี้ให้เจอครับ North Tenjin ...คือก็บอกไม่ถูกว่าออกจากสถานี Tenjin exit ที่เท่าไร ขอโทษอย่างแรง เจอห้างนี้แล้ว ให้เดินเข้าซอยที่อยู่ข้างๆ ห้างครับ

จะเห็นป้าย  McDonald ตามภาพนะ

เดินเลย McDonald มานะครับ จะมีประตูเข้าร้าน เล็กๆ... มีแค่ประตูจริงๆ บอกเลย... ต้องขอบคุณเซียน Poppy Kung สำหรับการนำทางและภาพประกอบครับ

ร้านนี้ .... ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษจ้า (แล้วมรึงจะพามาร้านนี้ทามมายห๊าาาาา 555)

ประการแระ...​เบียร์ร้านนี้ ...นุ่มมมมมมมมมม มากกกกกกกกก...​บอกเลย... ดูแววตาฉานซะก่อน เคลิ้มมาก 555

อย่างที่สองคือ...อาหารอร่อยมาก...เมนูแนะนำคือ โอโคโนมิยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่นน่ะเอง... สั่งไปแล้วเรียบร้อย

พนักงานน่ารักมาก... เค้าพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย แต่เค้าก็พยายามที่จะสื่อสารกะเราอย่างจริงจัง (ไม่เหมือนร้านอื่น ที่พอพูดอังกฤษไม่ได้ ก็พ่นญี่ปุ่นลูกเดียว) ... พนักงานที่นี่ พยายามที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เราเข้าใจ ชวนเราคุย ว่ามาจากไหน อะไร ยังไง บลา บลา บลา.... ประทับใจ บอกเลย

จานแรกที่มา...ไม่ใช่ที่เราสั่งไป...แต่เป็นของเรียกน้ำย่อย..

ฉ่ำๆ มาเลย... อร่อย อิอิ

จานที่สองมาแล้ว อันนี้คือ pork steak ครับ...น่ากินมาก

เค้าก็อุตส่าห์มาแนะนำว่า ... นี่เลย ต้องทานกะซอสนี้เท่านั้น ... พยายามแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ (แม้ว่าจะแปลแบบงงๆ ก็ตาม) ซอสจะออกรสเปรี้ยวๆ ทานกะสเต๊คหมูมันๆ อร่อยนักแล หมูนุ่มมาก ขอบอก


นี่เลย...ที่เรารอคอย...พิซซ่าญี่ปุ่น รูปร่างแปลกตา... ที่พนักงานมาพูดติดตลกว่า..ไม่ใช่เค้กนะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด (เออ...ฉานรู้แล้วว่าเป็นพิซซ่า...ไม่ใช่เค้ก ไม่ต้องมาบอกชั้นก็ได้ 555) ...​อร่อยมาก ไม่อยากจะเม้าท์

แต่คุณเชื่อมั้ย.... ที่ผ่านมาทั้งหมดนี่ คือ .... ยังไม่อิ่ม

จากสถานี Tenjin เลยต้องเดิน เดิน เดิน และ เดิน (ไม่ไกลเลย ...​คิดซะว่าเดินย่อย)...​มาที่สถานี Nakasu (ถ้านั่ง subway มาก็คือแค่สถานีเดียวเท่านั้น... เลยตัดสินใจเดินดีกว่า)

ร้านที่จะมากินนี่คือ Ichiran Ramen หรือราเมนข้อสอบ ครับ

ถ้านั่ง subway มา ให้ออก exit 2 นะครับ ของสถานี Nakasukawabata 


แต่ถ้าเดินมาแบบผม ... ก็ดู map เอาเลยนะ

จิงๆ ที่ Nakasu .....ยังมีร้าน Tax Free ชื่อดังครับ คือ 

Don Quijote  

(ซึ่งต้องออก exit 1 ครับ) เป็นร้านในเครือ Donki....   ซึ่งเดี๋ยวทานราเมนเสร็จ กะว่าจะไปช๊อปกันต่อนี่แหละ...ช๊อปมันส์มาก ขอบอก

แต่ตอนนี้ขอกินก่อนนะ

มาถึง เค้าจะให้เราทำข้อสอบก่อน (คือเลือกว่าจะเอาอะไรแบบไหน) เช่น เส้นเหนียวนุ่มแค่ไหน, ความเข้มข้นของน้ำซุป, กระเทียมเยอะมั้ย?, ต้นหอมเยอะเป่า?, แล้วก็เผ็ดร้อนแซ่บ แค่ไหน เลือกเลย

ผมเลือกตามรูปครับ... จัดหนัก จัดเต็ม

เอาภาพปลากรอบ มาให้ดูว่าเลือกไรได้บ้าง พร้อมราคา... อิๆ
ร้านนี้ เค้าทำเป็นตู้อัตโนมัติ อยากกินแบบไหน กดปุ่มอย่างเดียว แล้วจะได้ตั๋วออกมาเอาไปยื่นให้พนักงานครับ

พอได้คิวแล้วก็มานั่งใน partition ที่กั้นไว้ให้สำหรับเราโดยเฉพาะครับ...ป้องกันไม่ให้ไปลอกข้อสอบเพื่อน  555 กิมมิค เกร๋มาก

ได้แระ... ของผม...​ต้นหอมมาอย่างเยอะ

อร่อยนะ บอกเลย อิๆ


ส่วนนี่...ของคุณแฟนครับ...ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทะมัยต้องสั่งข้าวสวยด้วย...ลำพังแค่ราเมน ก็เยอะแล้วนะ  งึมๆ... แต่ของคุณแฟนดูน่าทานกว่า (แต่อร่อยน้อยกว่าขอผมแน่นอนอิๆ)

ไม่อยากจะบอกว่า ตอนที่กิน ichiran ramen นั่น... ก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้วมั้ง

จากวันง่ายๆ สบายๆ สไตล์ Yufuin ... กลายเป็นว่า วันนี้คือวันที่กินเยอะที่สุดของทริปนี้ก็ว่าได้

เดี๋ยวจะหาว่า DinDin​ โม้... ขอเอารูปมาโชว์ซะหน่อยแระกันนะครับ...ว่าวันนี้ทานเยอะจีๆ


สำหรับ Day 7 ...​ต้องบอกเลยว่า ฟินที่สุดกับหมูชุบเกร็ดขนมปังทอดที่ Kumamoto 

ขอบอกว่า....​ในทริป Fukuoka 10 วันนี้.... หมูทอด แห่ง Kumamoto นี่แหละ เด็ดที่สุด

ตามไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น